การ Onboard และ Assert Location Helium People Network Hotspot ยี่ห้อ Midas รุ่น 926.GB923
หลังจากเราได้หรือซื้อเครื่องขุดเหรียณ Helium People Network มาจะต้องทำการลงทะเบียนเครื่อง (Registration) ซึ่งทาง Helium ตั้งคำใหม่ขึ้นมาสองคำให้เราสับสนเล่น คือ Onboard และ Assert Location จริงๆ ก็คือการ Registration
Onboard เป็นการผูกเข้ากับระบบ Blockchain และ Assert Location คือระบุพิกัดติดตั้งเครื่องในแผนที่โลก
ขอยกตัวอย่างเครื่องขุดยี่ห้อ Midas รุ่น 926.GB923 เนื่องจากบริษัท MidasWireless มีปัญหาธุรกิจไม่ได้ให้บริการลูกค้าแล้ว (ไม่ชำระค่าลงทะเบียนและไม่ Support ลูกค้า ติดต่อทาง Email ก็ไม่ตอบ) และถูกถอนออกจาก Approved Maker List ของ Helium ถ้าเราทำการลงทะเบียนปรกติก็จะทำไม่ได้
หากยังไม่มีเครื่องขุดสามารถสั่งซื้อ เครื่องได้จาก เวป คลิก
บทความนี้เขียนบอกวิธีลงทะเบียนเครื่องที่ถูกลอยแพ
การลงทะเบียนผู้ใช้งานยังสามารถทำได้แต่จะต้องชำระค่าบริการให้กับ Helium เอง มาดูวิธีการว่าหากเครื่องที่ถูกลอยแพจะแก้ไขปัญหาอย่างไร
แสดง List ของ Maker ที่ยัง Active อยู่ เช่น
หรือ Link ดู Approved Maker List ได้จาก คลิก
ปรกติแล้วหากเป็นบริษัทที่ยังให้บริการอยู่ จะมี Data Credits ฝากไว้กับ Helium เพื่อให้เราใช้ในการลงทะเบียน OnBoard และ Assert Location ในครั้งแรกหลังการซื้อเครื่องมา ซึ่งเป็นบริการฟรีที่บริษัทสัญญาว่าจะให้
โชคร้ายที่ Helium ไม่ได้บังคับผู้ผลิตให้ ฝาก DC ก่อนจะผลิตและขายเครื่องให้ผู้ซื้อ ผู้เขียนเคยเข้าใจว่าผู้ผลิตจะต้องลงทะเบียน ID Security Chip กับบริษัท Helium และชำระ 50 US$ ก่อนผลิตขาย ซึ่งเป็นการเข้าใจผิดของผู้เขียนอย่างแรง ถึงแม้ว่าบริษัท Helium บังคับให้ผู้ผลิตติดตั้ง Chip Microchip ATECC608A ใน Miner และมีขบวนการกลั่นกรองผู้สมัครเป็น Manufacturer มีการบังคับให้ผู้ผลิตยื่น Application form HIP19 ตรงจุดนี้ผู้เขียนมีความเห็นว่าเมื่อบริษัท Helium ไม่ได้บังคับให้ Manufacturer จ่ายล่วงหน้าตาม ID Chip ควรจะ Credit ให้ผู้ซื้อลงทะเบียนฟรีไปก่อนหากเลขระหัสบน Chip Microchip ATECC608A ตรงกัน แล้ว บริษัท Helium ไปตามเก็บเอาจาก Manufacturer ทีหลัง หาก Manufacturer ไม่ชำระก็ให้แบนบริษัทไปเลย
Helium Foundation ไม่ได้ทำตามที่ผู้เขียนคิดคือให้ผู้ซื้อลงฟรีไปก่อนและหนี้ 50 US$ ไปตามเก็บเอาจากผู้ผลิตภายหลัง
ค่าบริการลงทะเบียน Onboard ประมาณ 40 US$
ค่าบริการลงทะเบียน Assert Location ประมาณ 10 US$
ตามภาพจะเห็นว่าบางบริษัทไม่มี DC ให้เราหัก ซึ่งทำให้เราทำการลงทะเบียน Onboard ปรกติไม่ได้
สามารถดูรายชื่อ Manufacturer ที่ No longer approved และ discontinued Makers ได้จาก ลิ้งค์ เดียวกัน
ตัวอย่างเช่น
เลื่อนไปดูด้านล่างๆ จะเห็น Midas
คลิกเข้าไปดู IOT Maker DC Balance ก็จะเห็นว่าแทบจะไม่มีเหลืออยู๋
เจอแบบนี้จึงต้องจ่ายเอง ถ้าติดต่อบริษัทตามที่อยู่ Support แล้วบริษัทไม่ตอบไม่รับผิดชอบอะไร ผู้เขียนพยามติดต่อ Support ของ Midas เป็นเกือบสองปีก็ไม่มีการตอบกลับ แต่หน้าเวปกลับแจ้งออกผลิตภัณฑ์ Helium รุ่นใหม่ออกจำหน่าย
(เครื่อง Midas ปรกติจะมี App บนมือถือให้ Download ชื่อ Midas Starter ซึ่งปัจจุบันก็ไม่สามารถ Download ได้เช่นกัน บริษัทคงไม่ได้จ่ายเงินค่าบริการ Appstore ทำให้ App ถูกถอดออก)
เราจะใช้ App Helium Wallet หรือเรียกง่ายๆ ว่า แอปกระเป๋าตังค์ Helium สีดำในการลงทะเบียนเครื่อง
เครื่อง Midas ที่เรานำมาแสดงเป็นตัวอย่างจะเป็น Midas ที่ติดตั้ง Firmware -ของบริษัท Nebra ด้วยไฟล์ helium-midas-2024–07–12.img แล้ว น่าเสียดายที่บริษัท Nebra ก็ปิดกิจการไปแล้ว
หมายเหตุ วิธีการ Flash ซึ่งทางร้านทำมาให้แล้ว สามารถดูได้ที่ คลิก หากสนใจ
และ Firmware โหลดได้จากเวป hub.nebra.com
เตรียมเงิน Crypto ไว้ใช้ในการลงทะเบียน
สิ่งที่ต้องมีการลงทะเบียนคือเงินประมาณ 50 US$ หรือใน Wallet เราจะต้องมี HNT หรือ DC อยู่ประมาณ 50 US$ (ควรเตรียมให้เกินเผื่อไว้บ้าง)และจะต้องเตรียมค่าธรรมเนียมเป็น Sol อีกเล็กน้อย เป็นค่าดำเนินการของบริษัท helium
ระยะหลังๆ มานี่เราไม่ต้อง SWAP HNT ไปเป็น DC แล้วระบบจะทำการหักค่าลงทะเบียนจาก DC ถ้าไม่พอจะมาหักจาก HNT ให้อัตโนมัติ
ผู้ลงทะเบียนจะต้องแลกเงินมาเตรียมไว้พอสำหรับหักออกจาก Wallet ตอนลงทะเบียน (บางครั้งเงินไม่พอก็ไม่ได้ได้แจ้งว่าทำไม่ได้เพราะอะไร ให้ผู้ใช้งมหาเอง จึงต้องมีเงินเผื่อไว้บ้างในกระเป๋า) การเตรียมเหรียณให้พอ หากในกระเป๋าไม่มีเหรียณอะไรอยู่เลยอาจจะต้องซื้อด้วยบัตรเครดิต
ถ้าจำไม่ได้ว่า 50 US$ คือประมาณกี่ DC ที่ต้องแลกเตรียมไว้ ให้เข้าเวป
ลองคีย์ 55 USD ก็จะได้เป็น 5,500,000 DC ดังนั้นให้เราแลกเหรียณ Crypto มาเตรียมไว้เป็น DC ประมาณ 5,500,000 DC ถ้ามีปัญหาในการเตรียมเหรียณ DC อาจจะเตรียมเป็น HNT ไว้แทน
เริ่มต้นการลงทะเบียนเครื่อง
หลังจากมีเงินในกระเป๋าแอปดำเรียบร้อย ให้เสียบไฟเข้าเครื่อง Midas เสียบสายอากาศและสาย Lan ให้เรียบร้อย เปิดเครื่องไว้ประมาณ 3 นาที ให้เครื่อง Midas บูทและเปิด Bluetooth รอการ Pair
เริ่มเรียกใช้ App Helium ดำในมือถือ
ให้คลิกแทปรูป Hotspot ด้านล่างแล้วคลิก + Connect Hotspot
นำมือถือวางใว้ใกล้ๆ เครื่อง Midas เลือกเชื่อมต่อแบบ Bluetooth Enabled Hotspot (เครื่อง Midas จะเปิด Bluetooth อัตโนมัติหลังเปิดเครื่องใหม่ทุกครั้งหลังบูทเสร็จ ปุ่มด้านหลังหรือไฟด้านหน้าเครื่องไม่ได้ใช้อะไรกับ Firmware Nebra)
มือถือเราจะ Scan หา ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 30 วินาที หากเจอจะเห็นชื่อเครื่อง HotSpot Midas ต่อด้วยระหัสเครื่องตามภาพ (ถ้ายังไม่เจออาจจะยัง Boot ไม่สมบูรณ์ รอสักพักค่อย Scan ใหม่)
ให้คลิกที่ชื่อ Midas Hotspot
ถ้าเชื่อมได้จะเห็นจอดังนี้ (Wifi Settings ไม่ต้องตั้งค่าถ้าเราเชื่อมสาย Lan ระหว่างใช้งาน)
หากมี Error สีแดงให้ทำการเชื่อมใหม่ เนื่องจากการ Boot อาจยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ลองกด Diagnostics จะเห็นข้อความ เช่น
หากข้อมูล Diagnostics แสดงออกมาให้เห็นดังภาพ แสดงว่าการเชื่อมต่อ App ดำจากมือถือติดต่อกับ Midas ได้แล้วอย่างสมบูรณ์ พร้อมที่จะลงทะเบียนแล้ว ให้คลิก Done จะกลับหน้าเดิม
คลิก Next เพื่อ Onboarding
แอป Helium ดำจะพยาม Onboard Hotspot แต่เนื่องจาก บริษัท Midas ไม่มี Credit เหลือให้เราใช้แล้ว จึงมีหน้าจอขึ้นมาให้เลือกว่า เราจะติดต่อ Midas หรือเปล่า หรือจะจ่ายเอง 40US+10US
ให้เลือก Option ตัวล่าง เนื่องจากผู้เขียนติดต่อบริษัท MidasWireless มาเป็นปีแล้วก็เงียบไม่ได้เมล์ตอบกลับเลย
เราก็ทำต่อไปโดยคลิก Onboard และ Pay Maker Fees.
จะมีการให้เราระบุตำแหน่งติดตั้ง hotspot ให้ย้ายจุด Location สีขาวมาให้ตรงกับตำแหน่งติดตั้งจริงในแผนที่
แล้วคลิก Assert Location
โปรแกรมจะถามว่าเราจะเพิ่มอุปกรณ์อะไร มีให้เลือกคือ IoT กับ Mobile ให้เราเลือก IoT (mobile จะหมายถึง Hotspot รุ่นที่ใช้คลื่น 5G)
TX/RX Gain ให้ใส่เกณฑ์ขยายของสายอากาศ Elevation ให้ใส่ความสูงจุดติดตั้งสายอากาศหน่วยเป็น เมตร เสร็จแล้วให้คลิก Asset Location
โปรแกรมจะถามให้เรายืนยันอีกครั้ง โดยกด Approve ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเป็นค่าดำเนินการอีก 0.000005001 SOL
หลังทำเรียบร้อยผู้ใช้จะต้องรออีกประมาณ 24 ชม. ถึงจะเห็น Hotspot เราเริ่มทำการขุดได้ปรกต ิ(ผู้เขียนเคย Onboard เวลา 16.30 น. รอประมาณ 10.00 น.ของอีกวันจะเริ่มเห็นมีเหรียณเข้าที่ App HeliumGeek เหตุที่ใช้เวลานาน เนื่องจาก เป็นการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ Blockchain ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าระบบรวมศูนย์)
เข้าหน้าเวป Admin ของ Midas เพื่อ Monitor Status เครื่อง
หลังเสียบสาย Lan และเปิดเครื่อง Midas เรียบร้อย ให้ใช้แอป เพื่อดู IP ว่า Midas ได้ IP อะไรหลังเปิดเครื่อง อาจใช้โปรแกรม Advance IP Scan หรือ อื่นๆ ผู้เขียนใช้ Wireless Network Watcher ตามภาพ
ถ้าเป็น Advance IP Scanner
จะเห็นชื่อ nebra ชัดขึ้นว่าเป็น IP เลขอะไร
เปิดเวปด้วย IP ดังกล่าง จะเจอหน้าจอ Login
ใช้ MAC Address เป็น Password ไม่ต้องใส่ Colon เช่น E45F0194E7B3 เป็นต้น ไม่ต้องตกใจถ้า Login ไม่ได้ มักจะคีย์ผิดเพราะระหัสมีหลายตัว ให้ป้อนใหม่
หากปรกติดีตรง Device Info ตรง Overall Status จะขึ้น ALL OK ถ้ายังไม่ลงทะเบียนไม่สำเร็จจะขึ้นว่ารอลงทะเบีบน Assert Location อยู่
APP HeliumGeek
สามารถ Download แอปจาก Playstore มาติดตั้งได้เพื่อติดตามสถานะของเครื่องขุด
ท้ายสุด
จากที่ผู้เขียนได้แกะตัว Midas เพื่อทำการ Flash ลง Firmware ทั้งของ CotX และ Nebra ใหม่หลายครั้งหลายกล่อง เมื่อแกะกล่องออกมาจะเห็นว่าการออกแบบ Hardware ของตัวเครื่องขุด Midas ที่ใช้ CM4 เป็นหัวใจนั้น ออกแบบ Hardware ได้อย่างดีเยี่ยม เช่น ใช้ CM4 emmc ไม่ได้ใช้ SDcard มี Heant Sink ระบายความร้อนตัว Pi CM4 เพียงพอกับการใช้งาน การวาง Layout ภายในกล่องทำได้โล่งโปร่ง ดูแล้วน่าจะมีความทนทานและใช้งานได้ในระยะยาว ซึ่งจากที่ผู้เขียนเปิดใช้งานมากว่า 2 ปีก็ไม่มีปัญหาอะไร
น่าเสียดายที่ ขาดการ Support จากบริษัท Midas Wireless แล้วในปัจจุบัน
